พฤติกรรมการใช้ระบบสารสนเทศ
1.พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศเกิดจากความต้องการสารสนเทศ ซึ่งมีบริบริษัท
เฉพาะตัวผู้แสวงหาสารสนเทศ ซึ่งแต่ละคนจะมีลักษณะแตกต่างกันในด้านต่างๆ เช่น
เฉพาะตัวผู้แสวงหาสารสนเทศ ซึ่งแต่ละคนจะมีลักษณะแตกต่างกันในด้านต่างๆ เช่น
สภาพแวดล้อม ความสนใจเฉพาะตัว และความตั้งใจ เป็นต้น
2.อุปสรรคที่ขัดขวางการแสวงหาสารสนเทศ เช่น อุปสรรคในการเข้าถึงสารสนเทศ
พื้นความรู้ของผู้แสวงหาสารสนเทศ ตาแหน่งและหน้าที่การงานของผู้แสวงหาสารสนเทศ
3.พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ ประกอบด้วยกระบวนการแสวงหาสารสนเทศ 8
ขั้นตอน โดยขั้นตอนเหล่านี้ไม่จาเป็นเกิดขึ้นนับแต่ขั้นแรกไปจนขั้นสุดท้ายตามล าดับก็ได้ คือ
3.1การเริ่มต้น เป็นการเริ่มต้นแสวงหาสารสนเทศ ผู้แสวงหาสารสนเทศอาจเริ่มต้น
จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานหรือผู้รู้ หรือการอ่านตาราพื้นฐานในเรื่องนั้นๆ
3.2การเชื่อมโยงร้อยเรียง เป็นการเชื่อมโยงสารสนเทศจากการอ้างอิงหรือ
บรรณานุกรม โดยอาจเป็นการเชื่อมโยงย้อนหลังหรือการเชื่อมโยงไปข้างหน้า
3.3การสารวจเลือกดูเป็นการค้นหาโดยมีเรื่องที่ต้องการหรือสนใจอยู่อย่างกว้างๆ
3.4การแยกแยะ เป็นการแยกแยะสารสนเทศที่แสวงหาได้ โดยใช้เกณฑ์ต่างๆ เช่น
ชื่อผู้แต่ง ชื่อวารสาร เป็นต้น
3.5การตรวจตรา เป็นการตรวจตราวรรณกรรมหรือสารสนเทศใหม่ในสาขาวิชา
หรือแวดวงวิชาการที่ตนสนใจและคุ้นเคย
3.6การดึงสารสนเทศออกมา เป็นการดึงสารสนเทศที่ต้องการจากรายงานวิจัย
บทความวารสาร หนังสือ เป็นสารสนเทศแบบเฉพาะเจาะจงที่สามารถนาไปใช้ได้ทันที
3.7การตรวจสอบ เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของสารสนเทศที่ได้รับ
3.8การจบ เป็นการแสวงหาสารสนเทศขั้นสุดท้ายเพื่อเก็บรวบรวมสารสนเทศที่
แสวงหาได้ทั้งหมดเข้าด้วยกัน และให้เกิดความแน่ใจว่าได้สารสนเทศในระดับที่ต้องการแล้ว
2.อุปสรรคที่ขัดขวางการแสวงหาสารสนเทศ เช่น อุปสรรคในการเข้าถึงสารสนเทศ
พื้นความรู้ของผู้แสวงหาสารสนเทศ ตาแหน่งและหน้าที่การงานของผู้แสวงหาสารสนเทศ
3.พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ ประกอบด้วยกระบวนการแสวงหาสารสนเทศ 8
ขั้นตอน โดยขั้นตอนเหล่านี้ไม่จาเป็นเกิดขึ้นนับแต่ขั้นแรกไปจนขั้นสุดท้ายตามล าดับก็ได้ คือ
3.1การเริ่มต้น เป็นการเริ่มต้นแสวงหาสารสนเทศ ผู้แสวงหาสารสนเทศอาจเริ่มต้น
จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานหรือผู้รู้ หรือการอ่านตาราพื้นฐานในเรื่องนั้นๆ
3.2การเชื่อมโยงร้อยเรียง เป็นการเชื่อมโยงสารสนเทศจากการอ้างอิงหรือ
บรรณานุกรม โดยอาจเป็นการเชื่อมโยงย้อนหลังหรือการเชื่อมโยงไปข้างหน้า
3.3การสารวจเลือกดูเป็นการค้นหาโดยมีเรื่องที่ต้องการหรือสนใจอยู่อย่างกว้างๆ
3.4การแยกแยะ เป็นการแยกแยะสารสนเทศที่แสวงหาได้ โดยใช้เกณฑ์ต่างๆ เช่น
ชื่อผู้แต่ง ชื่อวารสาร เป็นต้น
3.5การตรวจตรา เป็นการตรวจตราวรรณกรรมหรือสารสนเทศใหม่ในสาขาวิชา
หรือแวดวงวิชาการที่ตนสนใจและคุ้นเคย
3.6การดึงสารสนเทศออกมา เป็นการดึงสารสนเทศที่ต้องการจากรายงานวิจัย
บทความวารสาร หนังสือ เป็นสารสนเทศแบบเฉพาะเจาะจงที่สามารถนาไปใช้ได้ทันที
3.7การตรวจสอบ เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของสารสนเทศที่ได้รับ
3.8การจบ เป็นการแสวงหาสารสนเทศขั้นสุดท้ายเพื่อเก็บรวบรวมสารสนเทศที่
แสวงหาได้ทั้งหมดเข้าด้วยกัน และให้เกิดความแน่ใจว่าได้สารสนเทศในระดับที่ต้องการแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น